วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2558

เรื่องที่น่าสนใจ การพัฒนาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ : การอ่าน (Reading)

            วัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ : ทักษะการอ่าน (Reading) โดยมีเนื้อหาสาระการเรียนรู้คือ Song (เพลง)
                                                                                               (นายทิสลักษณ์ คำประชุม)
                                                                 (คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ 1EG)


การอ่าน (Reading)
Song

              เราจะมาเริ่มในส่วนของการอ่านด้วยบทเพลงเพราะๆ กันก่อน ใครเครียดนักก็หนีมาฟังเพลงกันดีกว่า ซึ่งเพลงที่ผมถูมิใจนำเสนอเป็นเพลงแรกคือ เพลงเพราะเพลงหนึ่งในอัลบั้มของ Jack Johnson ที่ชื่อว่า Curious George ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ animation สุดแสนน่ารักชื่อเดียวกันกับอัลบั้มนั่นเอง อัลบั้มนี้ แจ็ค จอห์นสันยังได้ชวนเพื่อนพ้องของเขามาร่วมร้องและแต่งเพลงด้วย ได้แก่ Ben Harper, G. Love และ Matt Costa ซึ่งก็ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมของพี่แจ็ค นั้นก็คือ โฟล์คนุ่มละมุนละไมเหมาะแก่การพกพาไปนอนฟังริมหาดเป็นที่สุด จะฟังไปนอนฝันถึงคุณพี่แจ็คไป หรือไปเล่นกระดานโต้คลื่นตามคุณพี่แจ็คก็ดีทั้งนั้น อ้าว! ไม่รู้หรือครับว่าคุณพี่แจ็คน่ะ นอกจากจะเป็นศิลปินนักร้องนักแต่งเพลง และนักดนตรีแล้ว เขายังเป็นนักเล่นกระดานโต้คลื่นฝีมือเยี่ยมตามคุณพ่อ แถมยังเคยทำหนัง 16 มม. เรื่อง Thicker Than Water ที่ได้ร่วมกำกับและเป็นตากล้อง แถมยังทำเพลงประกอบเองอีกด้วย ในเพลง The 3 R’s นี้ แจ็ค จอห์นสันได้นำเอาทำนองเพลงคลาสสิก Three is the Magic Number อันโด่งดังมาใส่เนื้อร้องใหม่ คาดว่าหลายๆ คนคงคุ้นเคยกับทำนองเพลงนี้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว หลัก 3 R’s ซึ่งจริงๆ แล้วหลัก 3 R’s เป็นตัวย่อของ Reduce Replace Refine แต่สำหรับเพลงนี้พูดถึง 3 R’s ที่มาจาก Reduce Reuse Recycle นั่นเอง เดี๋ยวเราตามไปเรียนรู้จากเพลงนี้กันเลยดีกว่าครับ


The 3 R’s/Jack Johnson/Curious George

Three it’s a magic number
Yes it is, it’s a magic number
Because two times three is six
And Three times six is eighteen
And the eighteenth letter in the alphabet is R

We got three R’s we’re going to talk about today
We’ve got to learn to

Reduce, Reuse, Recycle
Reduce, Reuse, Recycle
Reduce, Reuse, Recycle
Reduce, Reuse, Recycle

If you're going to the market to buy some juice
You've got to bring your own bags and you learn to reduce your waste
We’ve got to learn to reduce

And if your brother or your sister's got some cool clothes
You could try them on before you buy some more of those
Reuse, we've got to learn to reuse

And if the first two R's don't work out
And if you've got to make some trash
Don't throw it out
Recycle, we've got to learn to recycle,

(*)

Because three it's a magic number
Yes it is, it's a magic number
3, 3, 3
3, 6, 9, 12, 15, 18, 21, 24, 27, 30, 33, 36
33, 30, 27, 24, 21, 18, 15, 12, 9, 6, and
3, it's a magic number


เลขสามเป็นตัวเลขวิเศษ
มันเป็นตัวเลขมหัศจรรย์จริงๆ
เพราะว่าสามคูณสองได้หก
และหกคูณสามได้สิบแปด
และหกคุณสามได้สิบแปด

แล้วพยัญชนะตัวที่สิบแปดก็คือตัว R ยังไงล่ะ
วันนี้เราจะมาพูดถึงตัว R ทั้งสามตัวกัน
เราต้องเรียนรู้ที่จะ
ใช้น้อย ใช้ซ้ำ ใช้ใหม่
ใช้น้อย ใช้ซ้ำ ใช้ใหม่
ใช้น้อย ใช้ซ้ำ ใช้ใหม่
ใช้น้อย ใช้ซ้ำ ใช้ใหม่

ถ้าเธอจะไปซื้อน้ำผลไม้ที่ร้านล่ะก็
อย่าลืมเอาถุงไปด้วยนะ เธอจะได้รู้จักการลดขยะของเธอให้น้อยลงไงล่ะ
เราต้องเรียนรู้ที่จะใช้ให้น้อยลง

แล้วถ้าพี่ชายหรือน้องสาวของเธอมีเสื้อผ้าสุดเจ๋ง
เธอก็เอามาลองใส่เสียเองก่อนจะไปซื้อตัวใหม่
เอามาใส่ซ้ำไงล่ะ เราต้องรู้จักเอามาใช้อีก

ถ้าเกิดว่าตัว R สองตัวแรกยังไม่เข้าที
และถึงเวลาที่เธอต้องกำจัดขยะเสียบ้างแล้ว
อย่าเพิ่งโยนมันทิ้งนะ
เอากลับมาใช้ใหม่ไง เราต้องแปรรูปกลับมาใช้ใหม่

เพราะว่าเลขสามเป็นตัวเลขวิเศษ
มันเป็นตัวเลขมหัศจรรย์จริงๆ

3,3,3
3.6.9.12.15.18.21.24.27.30.33.36
33,30,27,24,21,18,15,12,9,6,3

เลขสามเป็นตัวเลขมหัศจรรย์



               Two times three
               แปลตรงๆ ได้ว่า สามสองครั้ง นั่นก็คือสามบวกสาม หมายถึง สามคูณสอง เช่นเดียวกับ three times six อันหมายถึง หกคูณสาม พูดง่ายๆ ก็คือ ใช้ time เพื่อคูณเลขนั่นเอง
               Example : Hey, Giant, Nobita doesn’t know that four times eight is thirty-two!
                         นี่ไจแอนท์ โนบิตะไม่รู้ว่าสี่คูณแปดได้สามสิบสองล่ะ!

            ต่อไปเรามาพูดถึงหลัก 3 R’s กัน กระบวนการนี้มี 3 ขั้นตอนด้วยกัน คือ
            R-Reduce
             แปลว่า ใช้น้อย ในแง่ของ 3 R’s ก็คือ การลดปริมาณของขยะโดยลดปริมาณการใช้หรือใช้เท่าที่จำเป็นนั่นเอง ซึ่งอาจทำได้โดยการเลือกซื้อของที่มีการบรรจุหีบห่อน้อยที่สุด หรือพกถุง กระเป๋า หรือตะกร้าส่วนตัวเวลาออกไปชอปปิ้งตามที่พี่แจ็คบอก ก็จะช่วยประหยัดทรัพยากรและพลังงานของโลกได้มาก
             Example : Everyone should take action today to reduce energy use.
                         เราทุกคนควรลงปฏิบัติตั้งแต่วันนี้เพื่อนลดการใช้พลังงาน

             R-Reuse
             แปลว่า ใช้ซ้ำ หมายถึง การนำของอย่างหนึ่งกลับมาใช้ซ้ำอีก โดยจุดประสงค์อาจเหมือนเดิมหรือไม่เหมือนเดิมก็ได้ เช่น การนำกระดาษที่ใช้ไปหน้าเดียวมาทดเลข (เหมือนที่เราชอบทำสมัยเด็ก) การซ่อมแซมของชำรุดเพียงเล็กน้อยเพื่อนำมาใช้ต่อ หรือแม้แต่การนำของสภาพดีที่เราไม่ใช้แล้วไปบริจาค หรือเอาไปขายต่อเป็นของมือสองก็ได้ วิธีนี้ช่วยลดความต้องการที่จะซื้อของใหม่ได้เป็นอย่างดี เพราะของที่เราไม่ต้องการแล้วอาจมีประโยชน์ต่อผู้อื่นก็ได้ เหมือนที่เขากล่าวกันไว้ว่า One man’s trash is another man’s treasure.
             Example : To help our world, I’m determined to reuse many things as mush as possible.
                               เพื่อช่วยโลกของเรา ฉันตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะเอาของต่างๆ กลับมาใช้ซ้ำอีกเท่าที่จะทำได้

   R-Recycle
   แปลว่า ใช้ใหม่ แตกต่างกับ reuse ตรงที่ recycle นั้น คือการนำเอาของที่เสียหรือใช้ไม่ได้แล้ว เช่น พวกขยะหรือเศษวัสดุมาแปรรูปด้วยกรรมวิธีต่างๆ เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์อีกครั้ง เพราะฉะนั้น recycle ต้องมีการ “แปรรูป” ข้อควรจำคือ เราควรสองขั้นตอนแรกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนจะ recycle ส่วนของที่เราเห็นว่านำมา recycle กันบ่อยๆ ก็คือกระดาษ พลาสติก แก้ว เดหล็ก และอลูมิเนียมที่มักนำกลับมาหลอมเพื่อใช้ใหม่
     Example : Students enjoyed finding out things that can be recycle.
               เด็กนักเรียนสนุกกันใหญ่ที่ได้รู้ว่ามีอะไรนำมารีไซเคิลได้บ้าง

   Waste (n.)
แปลได้หลายความหมาย เช่น ของเสีย ขยะ สิ่งปฏิกูล อุจจาระ การสูญเสีย สิ่งที่ไร้ค่าหรือไม่มีประโยชน์ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับบริบท หากเป็นกริยาจะหมายถึง สูญเสียหรือสิ้นเปลือง
 Example : I really don’t understand why he’s still doing this jop. I can bet it’s just a waste of time and money!
   ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเขายังทำงานนี้อยู่อีก พนันได้เลยว่ามีแต่เสียทั้งเงินและเวลา!

 Cool (adj.)
 เป็นแสลงที่ใช้พูดถึงอะไรก็ตามที่ เท่ เจ๋ง เก่ง เลิศ ใช้ได้กับทั้งคน สัตว์ สิ่งของ หรือสถานที่
  Example : Oh George, l’ve never seen anything like this before it’s amazing! It’s so cool.
            โอ้ ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยจอร์จ มันยอดมาก! มันเจ๋งจริงๆ เลย!

Try on (V.)
แปลว่า ทดลองสวมหรือใส่ ส่วนมากก็ใช้กับพวกเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายต่างๆ
Example : You’d better try on this shirt before buying.
           เธอน่าจะลองเสื้อตัวนี้ก่อนซื้อนะ

เพลงฟังง่ายๆ แบบนี้ กว่าจะเข้าใจก็ทำเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่ถ้าเราหัดมองหาความหมายที่ซ่อนอยู่ สุนทรียภาพที่เราได้จากการฟังเพลงนั้นๆ จะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวทีเดียว ไม่เพียงเราจะเพลิดเพลินกับท่วงทำนองที่ไพเราะ เรายังจะได้ข้อคิดที่อาจเป็นประโยชน์กับเราหรือคนที่เรารู้จักด้วย จะว่าไปการเรียนภาษาอังกฤษก็เหมือนกันการร้องเพลง ถ้าเราอยากจะเข้าใจอะไรอย่างถ่องแท้ เราต้องทำความเข้าใจสิ่งนั้นในทุกแง่มุม ทั้งแง่มุมที่เราเห็นและแง่มุมที่ซ่อนอยู่ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้ซ่อนลึกนัก ที่เราต้องทำก็แค่เปิดใจรับความเป็นไปด้านอื่นบ้าง และอย่ากลัวที่จะใช้จินตนาการเท่านั้นก็พอ

วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2558

เรื่องที่น่าสนใจ สำนวนไทย

ความหมายของสำนวนไทย
สำนวนหมายถึง ถ้อยคำที่เรียบเรียงเป็นข้อความหรือคำพูดที่เป็นชั้นเชิงไม่ตรงตามรูปแบบภาษาเป็นถ้อยคำหรือ คำพูดที่มีลักษณะเฉพาะตัว มีความหมายเป็นนัยแฝงอยู่ กินความกว้าง หรือลึกซึ้ง  นำมาใช้ให้มีความหมายแตกต่างไปจากความหมายเดิมของคำ ๆ นั้น  หรืออาจจะมีความหมายคล้ายกับความหมายเดิมของคำที่นำมาประสมกัน แต่ก็ไม่เหมือนกับความหมายเดิมทีเดียว เป็นความหมายในเชิงอุปมาเปรียบเทียบ  มักใช้ถ้อยคำที่ไม่ยาวมากแต่กินความมาก ใช้คำที่ไพเราะ คมคาย สละสลวย  ต้องอาศัยการตีความจึงจะเข้าใจ

ที่มาของสำนวนไทย
สำนวนไทยมีจำนวนมากมายและมีที่มาที่หลากหลายประการดังนี้

. มีที่มาจากธรรมชาติ  เป็นสำนวนที่เทียบเคียงมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ   ดังตัวอย่าง
สำนวน
ที่มา
ความหมาย
กาฝาก
      ต้นไม้ที่เกาะเบียดเบียนอาศัยอาหารจากต้นใหญ่ เลี้ยงตัว
     แฝงกินอยู่กับผู้อื่นโดยไม่ได้ทำ       ประโยชน ์อะไรให้
ก่อหวอด
การวางไข่ของปลา  ปลาจะพ่นน้ำเป็นฟองเรียกว่า   หวอด  เพื่อให้ไข่ปลาอาศัยจน เป็นลูกปลา
เริ่มจับกลุ่มเพื่อนทำการ อย่างใดอย่าง หนึ่ง
เข้าไต้เข้าไฟ
เวลาใกล้ค่ำต้องจุดไต้ ให้แสงสว่าง
เวลาพลบค่ำ
คลื่นกระทบฝั่ง
ทะเลมีคลื่นวิ่งเข้าหาฝั่งตลอดเวลา
เรื่องราวที่ครึกโครมขึ้นแล้วกลับเงียบ หายไป
คืบก็ทะเล  ศอกก็ทะเล
แสดงถึงความน่ากลัวของทะเล
สอนให้อย่าประมาทเพราะทะเล มีอันตราย  ทุกเมื่อ
ต้นไม้ตายเพราะลูก
ธรรมชาติของต้นไม้บางชนิดเมื่อออกผลแล้วจะตาย
พ่อแม่ยอมเสียสละแม้ชีวิต เพื่อลูก
ติดร่างแห
เวลาจับปลาด้วยแห ปลาน้อยใหญ่ก็จะติดแหมาด้วย
พลอยรับเคราะห์ไปด้วย
ตื่นแต่ไก่โห่
ธรรมชาติของไก่ย่อมขัน ในเวลาเช้ามืดเสมอ
ตื่นแต่เช้ามืด
ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ
ฟ้าอยู่สูงแผ่นดินอยู่ที่ต่ำ
คนทีทั้งที่สูงและที่ต่ำ
สนตะพาย
การสนตะพาที่จมูกวัวควาย  เพื่อชักจูงไปได้สะดวก
ยอมให้ชักจูง

. ที่มาจากวัฒนธรรมการดำรงชีวิต  เช่น  ปัจจัยสี่  อาหาร  เครื่องนุ่งห่ม  ที่อยู่อาศัย  พาหนะ  เป็นต้น  ดังตัวอย่าง 

สำนวน
ที่มา
ความหมาย
ก้นหม้อไม่ทันดำ
การหุงข้าวกว่าก้นหม้อจะติดเขม่าดำกินเวลานาน
เลิกกันง่าย
ชุบมือเปิบ
การกินข้าวด้วยมือ  ก่อนจะกิน อาหารจะเอา มือลงชุบน้ำ เพื่อล้างมือให้สะอาด และไม่ให้ข้าว ติดมือ
คนที่ไม่ช่วยทำพอถึงเวลา มารับประทาน      คนที่ฉวยประโยชน์จากคนอื่น โดยไม่ลงทุน ลงแรง
นุ่งเจียมห่มเจียม
การแต่งกาย
แต่งตัวพอสมกับฐานะ
จุดไต้ตำตอ
เวลาพลบค่ำจะจุดไต้เป็นเครื่องตามไฟ
พูดหรือทำสิ่งใดกับเจ้าของเรื่อง โดยผู้นั้น ไม่รู้ตัว
บ้านเมืองมีขื่อมีแป
เรือนต้องมีขื่อสำหรับยึดหัวเสาเรือนตามขวาง   ส่วนแปเป็นไม้ยึดหัวเสาตามยาว
บ้านเมืองมีกฎหมายคุ้มครอง
ติเรือทั้งโกลน
การทำเรือสมัยโบราณ  จะเหลาซุงทั้งต้นให้ เป็นรูปร่างก่อน  เรียกว่า  โกลน
ตำหนิสิ่งที่ยังทำไม่เสร็จ


 ลักษณะของสำนวนไทย
สำนวนไทย มีจำนวนมากมายสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการสำนวนไทยมีลักษณะดังนี้
ถ้อยคำที่ใช้เป็นสำนวนอาจเป็นเพียงคำเดียวหรือประกอบด้วยถ้อยคำที่เรียงกันตั้งแต่    คำขึ้นไปซึ่งบาง สำนวนเป็นกลุ่มคำบางสำนวนเป็นประโยคซึ่งมีทั้งความเดียวและประโยคความซ้อน
. สำนวนไทยบางสำนวนมีทั้งมีเสียงสัมผัสและไม่มีเสียงสัมผัสที่มีเสียงสัมผัส  มีเสียงสัมผัสในและสัมผัสนอกจะมีตั้งแต่ ๔ ถึง ๑๒ คำ ส่วนที่ไม่มีเสียงสัมผัส  จะมีตั้งแต่ ๒ ถึง ๘ คำ บางสำนวนมีการใช้คำซ้ำและเล่นคำ
. เนื้อความของสำนวนมีทั้งที่มีเนื้อความตอนเดียว  และมีเนื้อความสองตอนขึ้นไป


 สำนวนที่เกิดขึ้นใหม่
. สำนวนที่เกิดจากวงการสื่อมวลชน เช่น  ไปไม่ถึงดวงดาว (ไม่สำเร็จ ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่คิดไว้) มองต่างมุม (แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป) เป็นต้น
         ๒. สำนวนที่เกิดจากวงการเมือง เช่น  โปร่งใส (ชัดเจน ไม่มีลับลมคนใน)น็อตหลุด (ยั้งไม่อยู่  พูดโพล่งออกมาหรือแสดงอารมณ์อย่างไม่สมควร) เป็นต้น
. สำนวนที่เกิดจากวงการโฆษณา  เช่น  ภาษาดอกไม้ (คำพูดที่ไพเราะ รื่นหูพูดไปทางที่ดี)   มีระดับ (คุณภาพดี  มีมาตรฐานสูง) เป็นต้น
. สำนวนที่เกิดจากวงการบันเทิง เช่น แจ้งเกิด (เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักหรือเป็นที่ยอมรับในวงการนั้น ๆ) คู่กัด (คู่ที่ไม่ถูกกัน) เป็นต้น
. สำนวนเกิดใหม่ที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์รายวัน  
        -สำนวนสร้างใหม่ 
 เช่น  ขบเหลี่ยม (ไม่ลงรอยกัน  ขัดกัน  หักร้างกัน) ไทยเหลือง (พระที่ประพฤติตน ไม่เหมาะสม) 


ตัวอย่างสำนวนไทย
สำนวน
ความหมาย
สำนวน
ความหมาย
ก้มหน้า
ก.จำทน  เช่น 
ต้องก้มหน้า
ทำตามประสายาก
กระดี่ได้น้ำ
น.ใช้เปรียบเทียบคนที่แสดงอาการ   ดีอกดีใจ  ตื่นเต้นจนตัวสั่น  เช่น  เขาดีใจเหมือนกระดี่ได้น้ำ
กำเริบเสิบสาน
ก ได้ใจ, เหิมใจ
ก่อร่างสร้างตัว
ก.ตั้งเนื้อตั้งตัวได้
เป็นหลักฐาน
กิ่งทองใบหยก
ว.เหมาะสมกัน (ใช้แก่หญิง กับชายที่จะ แต่งงานกัน)
กินตามน้ำ
ก.รับของสมนาคุณที่เขา
เอามาให้ โดยไม่ได้ เรียกร้อง (มักใช้แก่เจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้มีอำนาจ)
กินน้ำใต้ศอก
ก.จำต้องยอมเป็นรองเขาไม่เทียมหน้าเทียมตาเท่า,  (มักหมายถึงเมียน้อย
ที่ต้องยอมลงให้แก่
เมียหลวง)
กินอยู่กับปาก 
อยากอยู่กับท้อง


ก.รู้ดีอยู่แล้วแสร้งทำเป็นไม่รู้
แกะดำ
น.คนที่ทำอะไรผิดเพื่อนผิดฝูง
ในกลุ่มนั้น ๆ  (ใช้ในทางไม่ดี)
ไก่รองบ่อน
น.ผู้ที่อยู่ในฐานะตัวสำรอง  ซึ่งจะเรียกมาใช้เมื่อไรก็ได้