(นายทิสลักษณ์ คำประชุม)
(คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ 1EG)
การอ่าน (Reading)
Song
The 3 R’s/Jack Johnson/Curious George
Three it’s a magic number
Yes it is, it’s a magic number
Because two times three is six
And Three times six is eighteen
And the eighteenth letter in the alphabet is R
We got three R’s we’re going to talk about today
We’ve got to learn to
Reduce, Reuse, Recycle
Reduce, Reuse, Recycle
Reduce, Reuse, Recycle
Reduce, Reuse, Recycle
If you're going to the market to buy some juice
You've got to bring your own bags and you learn to reduce your waste
We’ve got to learn to reduce
And if your brother or your sister's got some cool clothes
You could try them on before you buy some more of those
Reuse, we've got to learn to reuse
And if the first two R's don't work out
And if you've got to make some trash
Don't throw it out
Recycle, we've got to learn to recycle,
(*)
Because three it's a magic number
Yes it is, it's a magic number
3, 3, 3
3, 6, 9, 12, 15, 18, 21, 24, 27, 30, 33, 36
33, 30, 27, 24, 21, 18, 15, 12, 9, 6, and
3, it's a magic number
เลขสามเป็นตัวเลขวิเศษ
มันเป็นตัวเลขมหัศจรรย์จริงๆ
เพราะว่าสามคูณสองได้หก
และหกคูณสามได้สิบแปด
และหกคุณสามได้สิบแปด
แล้วพยัญชนะตัวที่สิบแปดก็คือตัว R ยังไงล่ะ
วันนี้เราจะมาพูดถึงตัว R ทั้งสามตัวกัน
เราต้องเรียนรู้ที่จะ
ใช้น้อย ใช้ซ้ำ ใช้ใหม่
ใช้น้อย ใช้ซ้ำ ใช้ใหม่
ใช้น้อย ใช้ซ้ำ ใช้ใหม่
ใช้น้อย ใช้ซ้ำ ใช้ใหม่
ถ้าเธอจะไปซื้อน้ำผลไม้ที่ร้านล่ะก็
อย่าลืมเอาถุงไปด้วยนะ เธอจะได้รู้จักการลดขยะของเธอให้น้อยลงไงล่ะ
เราต้องเรียนรู้ที่จะใช้ให้น้อยลง
แล้วถ้าพี่ชายหรือน้องสาวของเธอมีเสื้อผ้าสุดเจ๋ง
เธอก็เอามาลองใส่เสียเองก่อนจะไปซื้อตัวใหม่
เอามาใส่ซ้ำไงล่ะ เราต้องรู้จักเอามาใช้อีก
ถ้าเกิดว่าตัว R สองตัวแรกยังไม่เข้าที
และถึงเวลาที่เธอต้องกำจัดขยะเสียบ้างแล้ว
อย่าเพิ่งโยนมันทิ้งนะ
เอากลับมาใช้ใหม่ไง เราต้องแปรรูปกลับมาใช้ใหม่
เพราะว่าเลขสามเป็นตัวเลขวิเศษ
มันเป็นตัวเลขมหัศจรรย์จริงๆ
3,3,3
3.6.9.12.15.18.21.24.27.30.33.36
33,30,27,24,21,18,15,12,9,6,3
เลขสามเป็นตัวเลขมหัศจรรย์
Two times three
แปลตรงๆ ได้ว่า สามสองครั้ง นั่นก็คือสามบวกสาม หมายถึง สามคูณสอง เช่นเดียวกับ three times six อันหมายถึง หกคูณสาม พูดง่ายๆ ก็คือ ใช้ time เพื่อคูณเลขนั่นเอง
Example : Hey, Giant, Nobita doesn’t know that four times eight is thirty-two!
นี่ไจแอนท์ โนบิตะไม่รู้ว่าสี่คูณแปดได้สามสิบสองล่ะ!
ต่อไปเรามาพูดถึงหลัก 3 R’s กัน กระบวนการนี้มี 3 ขั้นตอนด้วยกัน คือ
R-Reduce
แปลว่า ใช้น้อย ในแง่ของ 3 R’s ก็คือ การลดปริมาณของขยะโดยลดปริมาณการใช้หรือใช้เท่าที่จำเป็นนั่นเอง ซึ่งอาจทำได้โดยการเลือกซื้อของที่มีการบรรจุหีบห่อน้อยที่สุด หรือพกถุง กระเป๋า หรือตะกร้าส่วนตัวเวลาออกไปชอปปิ้งตามที่พี่แจ็คบอก ก็จะช่วยประหยัดทรัพยากรและพลังงานของโลกได้มาก
Example : Everyone should take action today to reduce energy use.
เราทุกคนควรลงปฏิบัติตั้งแต่วันนี้เพื่อนลดการใช้พลังงาน
R-Reuse
แปลว่า ใช้ซ้ำ หมายถึง การนำของอย่างหนึ่งกลับมาใช้ซ้ำอีก โดยจุดประสงค์อาจเหมือนเดิมหรือไม่เหมือนเดิมก็ได้ เช่น การนำกระดาษที่ใช้ไปหน้าเดียวมาทดเลข (เหมือนที่เราชอบทำสมัยเด็ก) การซ่อมแซมของชำรุดเพียงเล็กน้อยเพื่อนำมาใช้ต่อ หรือแม้แต่การนำของสภาพดีที่เราไม่ใช้แล้วไปบริจาค หรือเอาไปขายต่อเป็นของมือสองก็ได้ วิธีนี้ช่วยลดความต้องการที่จะซื้อของใหม่ได้เป็นอย่างดี เพราะของที่เราไม่ต้องการแล้วอาจมีประโยชน์ต่อผู้อื่นก็ได้ เหมือนที่เขากล่าวกันไว้ว่า One man’s trash is another man’s treasure.
Example : To help our world, I’m determined to reuse many things as mush as possible.
เพื่อช่วยโลกของเรา ฉันตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะเอาของต่างๆ กลับมาใช้ซ้ำอีกเท่าที่จะทำได้
R-Recycle
แปลว่า ใช้ใหม่ แตกต่างกับ reuse ตรงที่ recycle นั้น คือการนำเอาของที่เสียหรือใช้ไม่ได้แล้ว เช่น พวกขยะหรือเศษวัสดุมาแปรรูปด้วยกรรมวิธีต่างๆ เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์อีกครั้ง เพราะฉะนั้น recycle ต้องมีการ “แปรรูป” ข้อควรจำคือ เราควรสองขั้นตอนแรกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนจะ recycle ส่วนของที่เราเห็นว่านำมา recycle กันบ่อยๆ ก็คือกระดาษ พลาสติก แก้ว เดหล็ก และอลูมิเนียมที่มักนำกลับมาหลอมเพื่อใช้ใหม่
Example : Students enjoyed finding out things that can be recycle.
เด็กนักเรียนสนุกกันใหญ่ที่ได้รู้ว่ามีอะไรนำมารีไซเคิลได้บ้าง
Waste (n.)
แปลได้หลายความหมาย เช่น ของเสีย ขยะ สิ่งปฏิกูล อุจจาระ การสูญเสีย สิ่งที่ไร้ค่าหรือไม่มีประโยชน์ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับบริบท หากเป็นกริยาจะหมายถึง สูญเสียหรือสิ้นเปลือง
Example : I really don’t understand why he’s still doing this jop. I can bet it’s just a waste of time and money!
ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเขายังทำงานนี้อยู่อีก พนันได้เลยว่ามีแต่เสียทั้งเงินและเวลา!
Cool (adj.)
เป็นแสลงที่ใช้พูดถึงอะไรก็ตามที่ เท่ เจ๋ง เก่ง เลิศ ใช้ได้กับทั้งคน สัตว์ สิ่งของ หรือสถานที่
Example : Oh George, l’ve never seen anything like this before it’s amazing! It’s so cool.
โอ้ ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยจอร์จ มันยอดมาก! มันเจ๋งจริงๆ เลย!
Try on (V.)
แปลว่า ทดลองสวมหรือใส่ ส่วนมากก็ใช้กับพวกเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายต่างๆ
Example : You’d better try on this shirt before buying.
เธอน่าจะลองเสื้อตัวนี้ก่อนซื้อนะ
เพลงฟังง่ายๆ แบบนี้ กว่าจะเข้าใจก็ทำเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่ถ้าเราหัดมองหาความหมายที่ซ่อนอยู่ สุนทรียภาพที่เราได้จากการฟังเพลงนั้นๆ จะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวทีเดียว ไม่เพียงเราจะเพลิดเพลินกับท่วงทำนองที่ไพเราะ เรายังจะได้ข้อคิดที่อาจเป็นประโยชน์กับเราหรือคนที่เรารู้จักด้วย จะว่าไปการเรียนภาษาอังกฤษก็เหมือนกันการร้องเพลง ถ้าเราอยากจะเข้าใจอะไรอย่างถ่องแท้ เราต้องทำความเข้าใจสิ่งนั้นในทุกแง่มุม ทั้งแง่มุมที่เราเห็นและแง่มุมที่ซ่อนอยู่ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้ซ่อนลึกนัก ที่เราต้องทำก็แค่เปิดใจรับความเป็นไปด้านอื่นบ้าง และอย่ากลัวที่จะใช้จินตนาการเท่านั้นก็พอ